ไม่ได้อ้างนะ! ‘บิ๊กตราหมี’ บอก ‘ราชัน’ กดดันให้เปาลำเอียง
ตราหมีบอกราชันกดดันเปา มิเกล อังเกล กิล มาริน ประธานบริหารของ แอตเลติโก้ มาดริด พูดว่าบรรยากาศที่ เรอัล มาดริด สร้างความกดดันให้ผู้ตัดสินจนทำให้การตัดสินไม่ยุติธรรม แต่ว่าก็ยอมรับว่าอย่างเดียวที่พวกเขาทำได้คือการรับผิดชอบผลงานตนเองเท่านั้น
คืนวันพฤหัสที่ผ่านมา “ตราหมี” ทำศึก โกปา เดล เรย์ ออกเยือน “ราชันชุดขาว” อริร่วมเมือง โดย เซซาร์ โซโต้ รับหน้าที่ผู้ตัดสินในสนาม
ทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 19 แต่ว่าช่วงท้ายเกม โรดรีโก้ ตีเสมอทำให้เข้าสู่ช่วงต่อเวลา สุดท้าย มาดริด ชนะ 3-1
ในเกมนัดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมีผู้เล่น แอตเลติโก้ โดนใบเหลืองไป 5 คน แถม สเตฟาน ซาวิช รับใบที่สองโดนไล่ออก ขณะที่ฝั่ง มาดริด รับเหลืองไป 2 คน
ตราหมีบอกราชันกดดันเปา หลังจบการแข่งขัน กิล มาริน ให้สัมภาษณ์กับสื่อทางการสโมสร กล่าวเผยความรู้สึกถึงการตัดสินของผู้ตัดสิน
“ผมให้ความเคารพอย่างถึงที่สุดต่อทีมงานผู้ตัดสิน และผมมั่นใจว่าพวกเขามีเจตนาที่ดีอยู่เสมอ”
“แต่ทุกคนที่ได้ดูการแข่งขัน สามารถเห็นได้ว่าตลอดหลายสิบปี เรื่องราวแบบเดิมๆ มักจะเกิดขึ้นเสมอ”
“โชคร้ายที่เรื่องนั้นไม่ทำให้ใครแปลกใจอีกต่อไป เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย มันเป็นสิ่งที่เห็นกันชัดเจนมากและพวกคุณแค่ต้องจำให้ได้เท่านั้น”
“เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่มีบรรยากาศเข้มข้นสุดๆ และได้รับความสนใจมากมาย พวกเขาสร้างความกดดันอย่างมาก จนเป็นเรื่องปกติที่ความกดดันนั้นจะส่งผลต่อเหล่าผู้คนที่ต้องทำการตัดสินใจ”
“มาดริด รู้ดีว่าอะไรรอพวกเขาอยู่เมื่อพวกเขามีข้อผิดพลาด หรือแม้แต่ในบางครั้งที่ประสบความสำเร็จพวกเขาก็โดน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะต่อต้านคนที่พวกเขามองว่าทำให้สโมสรเสียเปรียบ”
“ระบบมันเป็นแบบนั้นมาตลอดและ แอตเลติโก้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น เราต้องพยายามคว้าชัยให้มากที่สุด, เราต้องทำงานต่อไป เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่แข็งแกร่ง และยุติธรรมต่อทุกสโมสรมากขึ้น”
“สถานที่แข่งและสีเสื้อ ไม่ควรมีผลต่อการตัดสินที่ยุติธรรม และเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ความกดดันเหล่านั้นทำให้ผู้เล่นของเราต้องเสียหาย”
“เรื่องนี้ทำให้ผมโกรธ เพราะเหมือนกับแฟนบอลของทุกทีม สิ่งที่พวกเราคาดหวังคือการตัดสินที่มีมาตรฐานเดียวกัน”
“ใบเหลืองที่สอง (ของ เซบายอส) นั้นสมควรให้อย่างชัดเจน ปราศจากข้อสงสัย และเป็นไปตามกฎ แต่ตอนนาทีที่ 71 ของเกมในบ้าน มาดริด ซึ่งมีตั๋วเข้ารอบบอลถ้วยเป็นเดิมพัน, การให้พวกเขาเหลือ 10 คน เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่”
“เราเคยชินกับระบบ, ก่อนเกมดาร์บี้ แมทช์ เริ่มแข่ง ทั้งสำนักข่าว รายการวิทยุและโทรทัศน์ ต่างพูดเกี่ยวกับการปกป้องเฉพาะผู้เล่นคนหนึ่ง ของทีมๆ หนึ่งเท่านั้น”
“แต่บอกตามตรงนะ ผมคิดว่าในเกมวันพฤหัส คนที่ไม่ได้รับการปกป้องคือ กรีซมันน์ และ โมราต้า ที่ถูกคู่แข่งเตะ แต่ระบบมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
“ผมแทบจะไม่เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะพวกเขาจะกล่าวหาว่าผมกำลังรับบทเป็นเหยื่อทันที แต่ใครที่รู้จักดีเอ็นเอของ แอตเลติโก้ มาดริด อย่างแท้จริง จะรู้ดีว่าเราไม่ชอบหาข้ออ้าง”
“ดังนั้นทุกคนที่นี่เห็นตรงกันอย่างไม่มีข้อกังขาว่า เราต้องรับผิดชอบในตำแหน่งที่ทีมกำลังอยู่ เราตกรอบแบ่งกลุ่ม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก และตามหลังอันดับ 3 ใน ลาลีก้า 7 คะแนน”
“นั่นขึ้นอยู่กับเราที่จะทำผลงานให้ดีในช่วง 20 เกมสุดท้ายของลีค และจบฤดูกาลในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น แต่เรารู้ดีถึงวิธีการทำงานของระบบ”
เรอัล มาดริด ได้แค่เจ๊า “โซเซียดัด” รั้งรองจ่าฝูงลาลีกา ตามบาร์เซโลนา 5 แต้ม
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทำได้เพียง เปิดบ้านเสมอ เรอัล โซเซียดัด ในศึกลา ลีกา สเปน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน
การแข่งขันฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 2022-23 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 66 คู่ที่น่าสนใจ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด อันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดัด
เปิดตัวครึ่งแรก นาทีที่ 17 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจากลูกยิงของ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่ว่าบอลพุ่งหลุดเสาออกไป
จากนั้นนาทีที่ 32 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นอีกที คราวนี้เป็น โทนี โครส ที่ได้ซัด แม้กระนั้นนายด่านโซเซียดัดปัดออกไปได้จวนเจียน และถัดมา 3 นาที คาริม เบนเซมา ก็ยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร
เข้าสู่ช่วทดเจ็บครึ่งแรก นาทีที่ 45+1 ราชันชุดขาว น่าขึ้นนำ เมื่อ คาริม เบนเซมา จ่ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลไปยิงในเขตโทษ แต่ก็ยังติดเซฟของ เรมิโร ทำให้จบครึ่งแรกยังเท่ากัน 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง เรอัล มาดริด พยายามหาจังหวะทำประตู แม้กระนั้นยิงไปติดเซฟ อเล็กซ์ เรมิโร หรือยิงออกกันไปเอง จนกระทั่งจบ 90 นาที เรอัล มาดริด ทำได้แค่เสมอ เรอัล โซเซียดัด 0-0 มี 42 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง บาร์เซโลนา 5 คะแนน