ปมลึก คดีป๋ายุทธ กินตับเมียชาวบ้าน หรือ เหยื่อเกมพิศวาส
คดีป๋ายุทธ รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทาง แอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 แล้วก็ เฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 ในวัน อังคาร ที่ 10 มกราคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ปมลึก คดีป๋ายุทธ กินตับเมียราษฎร หรือ เหยื่อเกมพิศวาส
การยุทธ ยังไม่สิ้นเสร็จ ทางออกของ ย. ย. ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะเป็นอย่างไรต่อไป คดีที่กลายเป็นข่าวสารอื้อฉาว คาวสวาท ในวัย 80 ปี กับสาวสวยรุ่นลูก ซึ่ง ดันเป็น “เมียชาวบ้าน”
นายยงยุทธ ในตอนนี้ จำเป็นต้องพบศึกกระหนาบ กับหลาย ๆ ด้านพร้อมกัน ทั้งจากคดี แล้วก็ กระแสสังคม
ในทางคดีนั้น “นาย ก.” ฝ่ายโจทก์ ซึ่ง มีทนายความตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด รับว่าความให้ ได้ยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ต่อ เชลยไปแล้ว ตั้งแต่ตอนวันที่ 23 เดือนธันวาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา
ปรากฎว่า มีการเดินเกม โต้ตอบ ส่งคนไปขู่เข็ญคุกคามทางด้านโจทก์ นับว่าเป็นเป้าหมายที่พลาดอย่างแรง ของคนสั่งการ
เมื่อโจทก์เกิดความหวาดกลัว แล้ว ยอมถอยไปเฉยๆก็นับว่าเข้าทางไป แต่สำหรับในกรณีนี้ โจทก์ กลับทำตรงกันข้าม และ พร้อมที่จะชนอิทธิพลให้ รู้ดี รู้ชั่ว กันไปเลยทีเดียว
ภรรยาถูกชายชู้ตีท้ายครัว ก็เจ็บเพียงพอแล้ว ยังมาถูกขู่คุกคามซ้ำอีก ผัวของฝ่ายหญิง เลยชำระแค้น ด้วยการเปิดโปง
สำหรับหมากเกมนี้ คดีป๋ายุทธ ของชายบุคคลที่สาม ก็เลยจัดว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น อย่างแรง
จากคดีที่ฟ้องร้องคดีกันเฉยๆ ไม่มีใครรู้ ก็เลยตกกลายเป็นข่าวดัง ได้รับรู้กันทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางคดีอาจจะมีทางออก ไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน ตามกฎหมายแพ่ง ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า สามีภรรยาคู่ปัญหานี้ รู้เห็นเป็นใจกัน ทำสถานการณ์ขึ้นเอง กระทั่ง ป๋ายุทธ์ ติดบ่วง
ว่าในหัวข้อโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็คือ การจะฟ้องคดีทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายใดๆ โดยชอบด้วยกฎหมายแพ่ง มาตรา 1523 เรียกค่าชดเชย จากแฟนปันใจ จำต้องเป็นคู่ที่ จดทะเบียนกันแล้วแค่นั้น ถึงแม้ว่าจะโดยพฤตินัย จะแยกบ้านกันอยู่ก็ตาม ยังถือเป็น สามี ภรรยา โดยชอบด้วยกฎหมาย
ถ้าหากผัวเมียจำพวกอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน แต่มิได้จดทะเบียนกัน จะไม่มีสิทธิ์ฟ้องศาลตามมาตรา ดังกล่าวได้เลย
จนถึงในช่วงเวลานี้ ก็ยังไม่มีการรับรองกระจ่างแจ้ง ในประเด็นทะเบียนสมรส ว่ามีไหม แต่ก็น่าพิจารณาเช่นกันว่า ผู้ใช้กฎหมาย ระดับ ทนายความตั้ม จะมาตายน้ำตื้น พลาดในข้อกำหนดกฎหมายง่าย ๆ แบบงี้ ก็ยากที่จะมีความเป็นได้
มาถึงข้อความสำคัญที่น่าดึงดูดสูงที่สุด อันจะเป็นเหตุทำให้คดีพลิก แล้วก็ เกิดกระแสตีกลับ มีการวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันคือ ป๋ายุทธ คือ เหยื่อของเกมสิเนหา อันซับซ้อน เป็นไปได้ว่า งานนี้ เป็นแผนการส่งฝ่ายหญิง ไปลวงล่อให้ “ป๋ายุทธ ดอนฮวน แห่ง ชาวสิงห์ดำ” ตกหลุม เพื่อร่วมกันแบล็กเมล์ตบทรัพย์สิน มันจะเป็นได้หรือไม่ หลายคนเปิดประเด็นนี้ เพื่อให้ดูรอบด้าน
หนึ่งในคำถาม ที่มีต่อ ตัวคู่คู่สมรส เพราะอะไร ฝ่ายสามีจึงได้ เข้าถึงภาพลับ แชทลับ ต่าง ๆ ของภรรยาได้ ทั้งที่ภรรยาเริ่มจะมีพฤติกรรมทางลับ ที่มิดีมิงาม
เพราะอะไร เธอถึงไม่รอบคอบ ไม่มีการเข้ารหัสปกป้องโทรศัพท์มือถือ ตรงนี้จะดูให้เป็นพิรุธ ก็มองดูได้ด้วยเหมือนกัน
ฝ่ายจำเลย อาจใช้ประโยชน์จากความข้องใจ เหล่านี้ แปลงตัวเอง ให้เป็นเหยื่อผู้ถูกกลั่นแกล้ง ไปเลย ไม่ใช่นักรักนักล่าไร้หัวใจ อย่างที่ข่าวเขาว่าซะหน่อย
แต่การเข้าถึงข้อมูลโทรศัพท์มือถือนั้น จริง ๆ ก็มีสารพันขั้นตอนการที่จะ “แฮก” เข้าไปได้ ต่อให้มีรหัสป้องกันก็ตาม
ในช่วงเวลานี้ ความเสียท่าอย่างแรงของ ป๋ายุทธ ก็คือ สมรภูมิโซเชียล เพราะว่าภาพลับของ นายยงยุทธ เริ่มถูกปล่อยออกมา ว่อนทั่วอินเตอร์เน็ต ไปแล้ว
อย่างภาพเปลือยคู่กัน ที่แม้มองไม่เห็นหน้าฝ่ายชาย แต่ก็มองเห็นผมสีดอกเลาโดดเด่น เป็นสง่า ก็ไม่สามารถที่จะเป็นผู้ที่สอง หรือ ใครอื่นได้
หรือภาพเปิดหน้าชัด ๆ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ โอบไหล่สาวสวยรุ่นลูก แชะภาพร่วมกันอย่างเผย บางทีก็อาจจะแถว่าเป็นภาพตัดต่อ ก็ว่าได้ แต่ ใครจะเชื่อ? และก็ วันนี้ยังมีภาพหลุด ค่อย ๆ ปล่อยทะยอยออกมา อย่างต่อเนื่อง
การจัดการตัวเอง ในโลกของโซเชียลนั้น ถือเป็นงานยาก ถึงยากที่สุด ท่ามกลางภาพลับ ที่คงตามมาอีกมาก ที่จะได้ดู ต่อเนื่อง ทุกวันเป็นอย่างกับหนังซีรี่ย์ เพื่อบีบ ป๋ายุทธ ให้ “ดิ้น” ไม่ออก
ยิ่งมีการไปต่อปากหลากคำ กับทนายความตั้ม รวมทั้ง ตั้งท่า ดึงพรรคเพื่อไทยมาอุ้ม ก็จะยิ่งโดน ทนายความตั้ม “ขยี้” ด้วยเหลี่ยมเชิงตรรกะยอกย้อน ชาวเนต ซึ่ง โดยมากยืนข้าง ทนายความตั้ม ก็จะรุมสกรัม ป๋ายุทธ ซ้ำกันเข้าไปอีก
บางครั้ง การยืดอกสารภาพความเป็นจริง เหมาะสมที่สุด ผมนี่แหละครับ “ป๋า สปอร์ต ใจดี กทม. โอนไว” แล้วปิดห้องสนทนา เพื่อจ่ายค่าเสียหาย ให้กับความดื้อที่ก่อไว้ บางทีอาจเป็นทางออกที่เยี่ยมที่สุด ตอนนี้ เชื่อ ในทางพฤตินัย การยุทธ คงสิ้นเสร็จ แล้ว ก็จะได้เสร็จเรื่องกันไป