จุดอ่อนของแทคติค : เยอรมันพลาดตรงไหน ทำไมแพ้ญี่ปุ่นในฟุตบอลโลก 2022
เยอรมันแพ้ญี่ปุ่น ความจริงข้อแรกที่ผู้คนละเลยในเกมนี้คือ แทคติกของเยอรมันนั้นดีเยี่ยมที่สุดมากมาย เนื่องจากแทคติกของ ฮานซี ฟลิค ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อไขปัญหาอันเป็นข้อด้อยของทีมชุดนี้ โน่นคือ “ไม่มีกองหน้า” โดยเหตุนี้ ปัญหาสำคัญที่กองทัพอินทรีเหล็กจะต้องปรับปรุงแก้ไขในบอลโลก 2022 คือจะมีผลให้เช่นไรให้ยิงคู่ต่อสู้ได้ ?
เยอรมันแพ้ญี่ปุ่น คำตอบของฟลิคจึงเป็นการเล่นแทคติกครองบอลแน่นแฟ้น
ในลักษณะก็จะคล้ายกับบอลตำหนิกิ-ตาก้าของเป๊บ กวาดิโอล่า เนื่องจากตามแนวความคิดแล้ว การขาดกองหน้าตัวเป้าสามารถตอบแทนได้ด้วยการสร้างช่องทางทำแต้มที่มากขึ้น นี่จึงเป็นต้นเหตุให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงครองความสำเร็จ หากแม้ขาดกองหน้าตัวเป้าอยู่ในบางฤดูกาล
เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มขึ้น ฟลิคทำให้เห็นว่าเขาแทคติกในแบบอย่างนั้นออกมาได้อย่างดียิ่งจริงๆด้วยเหตุว่าเยอรมันสร้างช่องทางได้มากมายในครึ่งแรก แต่สุดท้าย พวกเขากลับสามารถทำแต้มได้เพียงลูกเดียว
ซึ่งจัดว่าไม่ใช่เรื่องน่าอัศจรรย์อะไร ด้วยเหตุว่ากองหน้าตัวเป๋าของพวกเขาคือ ไค ฮาเวิร์ตซ ศูนย์หน้าจากเชลซีที่ไม่ใช่กองหน้าธรรมชาติ แถมผลงานในฤดูกาลเดี๋ยวนี้ก็ตกต่ำ เนื่องจากทำประตูในพรีเมียร์ลีกเพียงสามลูกเท่านั้น
ถ้าต้นแบบของแทคติกตำหนิกิ-ตาก้าแบบเป๊บ กวาดิโอล่า ยังแบมือขอเงินจากบอร์ดบริหารแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อซื้อ เออร์ลิง ฮาลันด์ มาใช้งาน โน่นก็เป็นเครื่องการันตีถึงข้อด้อยสำคัญของแทคติกทีมชาติเยอรมันในบอลโลก 2022 ด้วยเหตุว่าแม้กระทั่งทีมสามารถสร้างช่องทางได้มากแค่ไหน ถ้าคุณไม่มีกองหน้าธรรมชาติในทีม สักวันคุณจะเจอทางตัน
และทางตันของทีมชาติเยอรมันได้มาเกิดขึ้นในวันนี้ … เมื่อนักฟุตบอลโด่งดังทั้งยัง อิลคาย กุนโดกัน, จามาล มูเซียล่า, แซร์จ นาบรี้ หรือ โธมัส มุลเลอร์ กลับไม่สามารถที่จะทำแต้มจากลูกโอเพ่นเพลย์ได้เลย นี่คือข้อด้อยสำคัญที่เยอรมันพยายามปรับปรุงแก้ไขตลอดมา แต่สุดท้าย พวกเขาจะต้องเจอหน้ากับความจริงว่า พวกเขาทำมันไม่สำเร็จ
นี่จึงเป็นความแพ้ที่น่าเสียดายที่สุดของเยอรมัน ด้วยเหตุว่านักฟุตบอลที่เล่นดีเยี่ยมที่สุดในเกมนี้กลับไม่ใช่แข้งประเทศญี่ปุ่นรายไหน แต่เป็น อิลคาย กุนโดกัน ด้วยเหตุว่าเขาคือนักฟุตบอลที่ลงไปตัดบอลถึงหน้ากรอบจุดโทษของตัวเอง ก่อนจะโผล่ขึ้นไปยิงไกลในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็โผล่มา นี่คือกุนโดกันในร่างท็อปฟอร์มของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ความยอดเยี่ยมของกุนโดกัน คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ข้อด้อยหลายแบบของเยอรมันถูกละเลย ไม่ว่าจะเป็น การขาดกองหน้าตัวเป้า, แนวรับที่ยังขาดความแน่นอน และไว้วางใจไม่ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่คนไม่ใช่น้อยละเลยไปในแมตช์นี้คือ ข้อด้อยเรื่องกองหลัง เนื่องจากพวกเขาเกือบจะไม่ได้ถูกทดลองอะไรเลยในครึ่งแรก เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นตั้งมั่นเล่นเกมรับมากจนเกินไป
นอกจากนี้แล้ว นักเตะเยอรมันบางคนยังเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่แฟนบอลคาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
จามาล มูเซียลา ที่เกือบจะไม่ได้รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม หากแม้แทคติกของพวกเขาจะกำหนดให้จ่ายบอลแก่ผู้เล่นทุกคนก็ตาม โน่นด้วยเหตุว่ามูเซียลาบ่งบอกถึงในเกมนี้ว่า เมื่อไรก็ตามที่เขาได้บอล มันจะจบด้วยการที่เขาทำประตูเอง ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่นักฟุตบอลรายอื่นปรารถนาแม้แต่น้อย
เมื่อประเทศญี่ปุ่นที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของตัวเองอย่างชัดเจนในครึ่งแรก ทั้งยัง แทคติกที่ควบคุมพื้นที่อย่างดีเยี่ยม หรือความมีระเบียบเรียบร้อยและมีวินัยที่เห็นได้ชัด เลือกจะเปิดหน้าแลกเปลี่ยนกับเยอรมันในครึ่งหลัง ข้อด้อยของกองทัพอินทรีเหล็กที่ถูกแอบซ่อนไว้จึงถูกเผย
เนื่องจากทีมชาติประเทศญี่ปุ่นในเกมนี้นับว่าเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพในทุกตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่ เกมรับเปี่ยมระเบียบวินัย, มิดฟิลด์ที่เพรสซิ่งคู่แข่งได้อย่างดียิ่ง, กองหน้าที่มีความไว เมื่อบวกกับความมั่นใจที่เปี่ยมล้น และข้อได้เปรียบเชิงแทคติก ถึงจะอย่างไรทีมชาติประเทศญี่ปุ่นสามารถต่อสู้กับเยอรมันได้แน่
และอย่างที่เราเห็นผลลัพธ์ด้วยตาตนเองว่า ประเทศญี่ปุ่นต่อสู้กับเยอรมันได้จริงๆยิ่งเปลี่ยนนักฟุตบอลที่ถนัดเล่นเกมรุกอย่าง คาโอรุ มิโตมะ, ทาเกฮิโระ โทมิยัตสึ และ ทาคูมะ อาซาโนะ ลงมา กองทัพซามูไรบลูยิ่งเล่นได้ดีเยี่ยมที่สุดกว่าเดิม
แต่ในขณะเดียวกัน นักฟุตบอลที่เล่นดีเยี่ยมที่สุดของเยอรมัน คือ อิลคาย กุนโดกัน กลับจะต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 67 เนื่องจากร่างกายไม่ไหว ส่งผลให้เยอรมันไม่มีวัยกลางคนสำคัญคอยเก็บบอลอย่างเดิม แต่เนื่องจากกุนโดกันเองวิ่งเกือบจะไม่ออก และมิดฟิลด์ของเยอรมันก็เริ่มตัดเกมรุกประเทศญี่ปุ่นไม่ได้แล้ว การเปลี่ยนตัวคราวนี้จึงเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้
น่าเสียดายที่นักฟุตบอลลงมาแทนกุนโดกัน กลับกลาย เลออน โกเร็ตซ์ก้า
ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไกลห่างจากฟอร์มอันดีเยี่ยมที่สุดที่เขาเคยทำเป็น มิดฟิลด์ของเยอรมันจึงไม่สามารถที่จะหยุดเกมรุกที่กำลังรุนแรงของประเทศญี่ปุ่นได้ และเมื่อพวกเขาสร้่างข้อผิดพลาด การถูกลงโทษโดยกองทัพซามูไรบลูจึงเกิดเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความแพ้พ่ายคราวนี้จึงไม่ใช่การบอกว่าเยอรมันคือทีมที่แย่อะไร ยิ่งเมื่อเราดูไปยังการคิดค่าประตูตามเครื่องการันตีความจริงว่าเยอรมันเป็นทีมที่ดีเหมือนกัน และดีกว่ามากมายจริงๆถ้าเกิดคิดสกอร์ตามประตูที่คาดว่าจะเป็น หรือ xG ผลปรากฎว่าเยอรมันจะต้องเอาชนะประเทศญี่ปุ่น 3-1
ซึ่งก็นับได้ว่า ตามหลักสถิติเยอรมันเป็นทีมที่สร้างช่องทางได้มากกว่า และดีเยี่ยมที่สุดกว่าประเทศญี่ปุ่นแน่ๆ แต่โชคร้ายของกองทัพอินทรีเหล็กที่การปฏิบัติในโลกที่ความจริง เยอรมันกลับคลาดโอกาสมากจนเกินไป และกองหลังของพวกเขาก็บกพร่องมากจนเกินไป
แต่อย่างที่เราเน้นย้ำกันไปตั้งแต่แรกว่าแทคติกของเยอรมันนั้นดีเยี่ยมที่สุด สิ่งสำคัญสำหรับทำอินทรีเหล็กในช่วงนี้คือ พวกเขาควรจะ “ใจเย็น” และเดินหน้าในแทคติกเดิมต่อไป ด้วยเหตุว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเขาจะนั่งเสียกำลังใจกับข้อผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกทีมบนโลก
การกลับไปทำงานหนัก เพื่อพินิจพิจารณาหาข้อด้อยในเกมที่แพ้ และปรับปรุงแก้ไขอย่างเร็วในเกมต่อไป คือสิ่งที่ทีมชาติเยอรมันควรจะทำหลังจากนี้ ถ้า ฮันซี ฟลิค เห็นว่านักฟุตบอลใครกันแน่คือข้อด้อย ไม่ว่าจะเป็น ฮาเวิร์ตซ, มูเซียล่า หรือซูเล่อ ถ้าบุนเดสเทรนเนอร์รู้สึกว่าใครสอบไม่ผ่าน เขาจะต้องปรับปรุงแก้ไขตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ด้วยเหตุว่ากว่าจะเดินหน้าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างในเกมลำดับที่สาม มันอาจจะสายเกินไปแล้ว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ของทีมชาติเยอรมันคล้ายกับทีมชาติอาร์เจนติน่า โน่นคือ เมื่อนักฟุตบอลของพวกเขาเริ่มสร้างข้อผิดพลาดออกมา ทีมเต็งอย่างนี้สามารถแพ้ได้ทันที ถ้าพวกเขาเจอทีมที่มีคุณภาพจริงๆในวันนั้น ยิ่งเยอรมันมีแทคติกที่ดีกว่าอาร์เจนติน่าแจ่มชัดมากมาย ประเด็นนี้ยิ่งทำให้เห็นว่า ถ้าเกิดนักฟุตบอลของทีมไหนไม่ได้ดีเยี่ยมที่สุดจริงๆตัวอย่างเช่น อังกฤษ ความแพ้พ่ายก็สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากคุณดีน้อยเกินไป
ถึงนี้ เยอรมันยังคงมีโอกาสเป็นแชมป์โลก แต่ ฮันซี ฟลิค จะต้องทำงานหนักมากยิ่งกว่าผู้จัดการทีมทุกคนในบอลโลก 2022 เพื่อสร้างแทคติกที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น กองทัพอินทรีเหล็กถึงจะมีโอกาสเป็นแชมป์โลก ซึ่งจากผลลัพธ์ที่ในวันนี้เกิดขึ้นกับทีมชาติประเทศญี่ปุ่น มันไม่ใช้ว่าจะง่ายแม้แต่นิดเดียว
ขอบคุณบทวิเคราะห์ดีๆจาก Soccersuck