การกลับมาของ ‘แรชฟอร์ด’ ตัวรุกตอบโจทย์ที่อังกฤษตามหาในฟุตบอลโลก 2022
มาร์คัส แรชฟอร์ด ครั้งหนึ่ง ราวกับ จะ หมด อนาคต ใน วงการบอล เขา ฟอร์ม ตกหนัก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แฟนคลับต้องการ ขาย เขา ออกมาจากทีม และหลุดจากทีมชาติอังกฤษ ไม่มีวี่แววว่าจะได้มาเล่นบอลโลก
แต่มาร์คัส แรชฟอร์ด สามารถ เร่ง ฟอร์ม จนกระทั่ง กลับ มา ได้ จนกระทั่ง แกเร็ธ เซาธ์เกท ยอม เรียก เขา ติด ทีม ชาติ และ เขาตอบแทนความไว้ใจอย่างงดงามในบอลโลก 2022
ฤดูกาลที่ไม่ง่าย
ใน ระดับ สโมสร กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับว่า ไม่ ใช่ เรื่อง ที่ ง่าย เลย สำหรับมาร์คัส แรชฟอร์ด กับ ปัญหา ที่ เขา จะต้องพบในแต่ละครั้ง
นับ ตั้งแต่ ฤดูกาล ที่ แล้ว เขา ก็จำต้องพบเจอกับอาการบาดเจ็บอยู่เรื่อยคืออาการบาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งใช้เวลาไปพอควร ทำให้เขาก็ยากในการออกตัวฤดูกาลของตัวเอง
ส่วนในฤดูกาลนี้จะเป็นลักษณะของการเจ็บแบบนิดๆหน่อยๆที่กล้ามเนื้อซึ่งเป็นส่วนที่แรชฟอร์ดพบเจออยู่เป็นประจำอยู่แล้วแบบเดียวกัน
ปัญหา ที่ ตาม มา คือ แรชฟอร์ดเสียความเชื่อมั่นและมั่นใจ ทำ ให้ ผล งาน การ เล่น ของ เขา ตกลง อย่างเห็นได้ชัด บวกกับบางครั้งกำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีอย่างสม่ำเสมอ เขาก็จำต้องมาพบกับอาการบาดเจ็บซ้ำอีก นั่นทำให้ฟอร์มที่แท้จริงของเขาก็ไปได้ไม่สุดเยอะแค่ไหน
ไม่ แปลก เลย ว่า เขา แทบจะ ไม่ ได้ ช่องทางในการติดทีมชาติอังกฤษในเส้นทางสู่บอลโลก ประเภทที่สามารถพูดได้ว่าแฟนบอลหลายคนเชื่อแล้วว่า จะไม่ได้มองเห็นแรชฟอร์ดในบอลโลกหนนี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเชื่อใจของ เอริค เทน ฮาก และการใส่แทคติคที่เหมาะสมให้นักฟุตบอลรายนี้ ช่วยให้แรชฟอร์ดเริ่มกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้น ผลงาน 8 ประตู จาก 19 นัด กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2022-23 นับว่าสอบผ่าน และทำให้เขาได้กลับมาติดทีมชาติอังกฤษในบอลโลกแบบถูกที่ถูกเวลาสุดๆ
ขอเพียงแค่ความเชื่อมั่นและมั่นใจ
สำหรับการมาบอลโลกที่กาตาร์ของมาร์คัส แรชฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต จับเขานั่งสำรองไปก่อน เนื่องจากว่าหากเทียบเคียงตำแหน่งต่อตำแหน่ง แรชฟอร์ดเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งดูแล้ว ราฮีม สเตอร์ลิง ดูจะเป็นผู้เล่นที่ถูกใช้ในทีมชาติอังกฤษมากกว่า
บวกกับแรชฟอร์ดก็ส่งผลงานในระดับทีมชาติก่อนหน้านี้ไม่ดีเยอะแค่ไหนนัก ก็ส่งผลให้เขาจำต้องเริ่มเล่นในบอลโลกหนนี้ในฐานะตัวสำรอง
ในเกมแรกที่ทีมชาติอังกฤษสามารถเอาชนะทีมชาติประเทศอิหร่านได้อย่างสวยงาม ด้วยสกอร์ 6-2 หนึ่งในประตูที่เกิดขึ้นเป็นของมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยิงไปอย่างใจเย็น แบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักกับในเวลาที่เขาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะลงเล่นในฐานะตัวสำรองก็ตาม
ด้วยแรงกดดันที่มันลดลงไปจากเดิม รวมทั้งเขาที่สบโอกาสจุดโฟกัสกับเกมอย่างมาก แรชฟอร์ดแม้จะลงมาเป็นตัวสำรองแต่สามารถทำให้หลายคนประทับใจได้ตั้งแต่เกมนัดแรก
ช่องทางในการ ลง เล่น เป็น ผู้ เล่น ตัว จริง ของมาร์คัส แรชฟอร์ด ในบอลโลก 2022 ก็ มา ถึง จน ได้ ใน เกม รอบ แบ่ง กลุ่ม นัด สุดท้ายที่จะจำต้องพบกับทีมชาติเวลส์ หลังจากสเตอริ่งผู้ครอบครอง ตำแหน่ง ตัว จริง ผลงาน ไม่ ดี ใน เกม กับ สหรัฐฯ นัดที่ 2 ของอังกฤษในรอบแบ่งกลุ่มที่ทำได้เพียงแค่เสมอ 0-0 จนกระทั่งอดรับรองการเข้ารอบ
มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้เริ่มต้นกับตำแหน่งปีกซ้าย และเขาทำให้เห็นว่า นี่แหละแรชฟอร์ดที่หลายคนกำลังมองหา
เขาสามารถลงไปเล่นได้อย่างแน่ใจเต็มเปี่ยม ใช้ความเร็วในการทำร้ายคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม กับความต้องการที่ต้องการช่วยทีมชาติอังกฤษแบบเกินร้อย
แรชฟอร์ดยิงฟรีคิกสุดงามเปิดหัวในเกมกับเวลส์ และก็ตามด้วยการเลี้ยงฝ่าเข้าไปทำประตูแบบเชื่อมั่น ช่วยให้อังกฤษชนะเวลส์ 3-0 คว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่มบีมาครอบครองได้ตามเป้า
ไม่แปลกเลยว่าเขาก็กลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของทีมชาติอังกฤษในเกมนัดนี้ เนื่องจากว่าเขาลงไปเล่นอย่างแน่ใจ ในแบบที่เราแทบจะไม่ได้มองเห็นเลยในการลงเล่นของเขาช่วงหลัง ซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญที่บางทีอาจพลิกให้เขาสบโอกาสเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติอังกฤษในรอบลึกๆของบอลโลกหนนี้ก็ได้แบบเดียวกัน
ด้วยผลงานยิงได้ 3 ประตูในบอลโลกคราวนี้ ส่งผลให้แรชฟอร์ดขึ้นไปเป็นหนึ่งในนัดเตะที่ได้ลุ้นรางวัลดาวซัลโวด้วยเช่นเดียวกัน บนเวทีใหญ่ระดับบอลโลกเขาสามารถที่จะแงะสุดยอดฟอร์มออกมาให้ทุกๆคนมองเห็นได้อย่างน่าประทับใจ ราวกับได้กลับไปมองเห็นแรชฟอร์ดที่ยอดเยี่ยมอีกรอบ
แน่นอนหลังจากฟอร์มการเล่นระดับนี้ของมาร์คัส แรชฟอร์ด อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติอังกฤษที่จะจำต้องพบกับทีมชาติเซเนกัลในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก Sportingnews